วันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีเมื่อช่วงคืนวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการรับแจ้ง เหตุโจรย่องเข้าไปซุ่มในห้องพระ ก่อนกระโจนออกมาล็อกคอสาววัย 18 ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้าน กับลูกวัย 3 ขวบ และกระชากลงมาในครัว พร้อมกับใช้ผ้ามัดมือมัดเท้า แถมยังใช้มือตบหน้าผู้เสียหายหลายที แถมใช้มีดข่มขู่เอาชีวิตหากส่งเสียงร้อง ขณะเดียวกันยังพยายามเอายาแก้แพ้ลงมือกรอกปาก ลูกสาววัย 3 ขวบ ขณะกำลังวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน แต่จู่ๆ โจรกลับตกใจเสียงเพื่อนบ้านคุยกันและวิ่งหลบหนีไป โดยไม่ได้รื้อค้นทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด เป็นคำให้การของสาววัย 18 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น
ล่าสุดความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในบ้าน หลังดังกล่าว ซึ่งเป็นทาวเฮาส์ 2 ชั้น อย่างละเอียดแล้ว แต่ก็ไม่มีร่องรอยการถูกงัดแงะแต่อย่างใด แถมประตูและหน้าต่างยังมีเหล็กดัดรอบตัวบ้าน ซึ่งเป็นการยากที่โจรจะเข้าไปแอบในห้องพระชั้น 2 ตามคำให้การของผู้เสียหายใด ถ้าหากคนร้ายเข้าทางหน้าบ้าน เจ้าของบ้านก็น่าจะเห็นตัวก่อน ขณะเดียวกันผ้าที่ใช้มัดก็ผืนใหญ่เกินกว่าที่จะใช้มัดมือมัดเท้าคนได้ รวมถึงยาแก้แพ้ที่พบตกที่พื้น ซึ่งเมื่อตรวจสอบโดยรวมก็มีข้อสงสัยให้เจ้าหน้าที่ต้องวิเคราะห์หลายอย่าง
จากนั้นฝ่ายสืบสวนจึงได้นำตัว น.ส.เอ พร้อมสามี มาสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่ง น.ส.เอ ก็ให้ปากคำวกไปวนมามีพิรุธ และขัดกับพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ กระทั้ง น.ส.เอ ยอมปริปากออกมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการกุขึ้นมาเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสามี ส่วนสามีของ น.ส.เอ เองก็ได้บอกว่า ภรรยามีอาการเครียด ซึ่งอาจจะกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจ
เบื้องต้นจะได้นัด น.ส.เอ มาสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 30 ก.ย. เพื่อทำสำนวนส่งฟ้องข้อหาแจ้งความเท็จต่อไป
ทีมา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1443508705
0 comments:
Post a Comment