จากกรณีนายยงยุทธ หรือธรรมรงค์ แก้วสวนจิก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.14 บ้านหนองบ่อ ต.หนองบ่อ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รปภ.และหัวหน้าคนงานโรงงานผลิตเสื้อยี่ห้อหนึ่งในกทม.พร้อมด้วยภรรยา น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.10 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พนักงานโรงงานผลิตปลั๊กไฟฟ้า ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ก.ย. 2558 หมายเลข 743148 รวม 5 คู่ ได้เงินรางวัล 30 ล้านบาท จนเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วประเทศ ต่อมาวันที่ 13 ต.ค.58 เมียอุ้มลูก 8 เดือนฟ้องศาลเรียกค่าเลี้ยงดู หลังสามีถูกหวย 30 ล้านแล้วชิ่งหนี ระบุสามีพอรับเงินแล้วก็ให้เมียกลับไปเลี้ยงลูกที่อุดรฯ รับปากจะซื้อที่ดินทำรีสอร์ตให้บริหาร แต่สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้ แต่ส่งข้อความทางมือถือขอแยกทาง แล้วจะกลับไปเคลียร์หลังออกพรรษา โดยตอนที่ซื้อสลากนั้น ก็ยืมเงินตนไปซื้อ ที่ผ่านมาโอนเงินให้ 3 ครั้งรวม 1.2 ล้าน จึงจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่สามีบอกไม่ได้หนี เพียงแค่ไม่เข้าใจกันและต้องการปลีกตัวมาสร้างบ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 พ.ย. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ถ.ทหาร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ พาดช.ชลธี หรือน้องเกาลัค แก้วสวนจิก วัย 10 เดือน พร้อมด้วยนายธีระพล โภชนุกูล ทนายความ ร.ต.ท.อุดมโชค สิงหกุลศิริ ผู้ช่วยทนายฯ และญาติๆ เดินทางมาตามคำสั่งศาลฯ เพื่อนัดไกล่เกลี่ยกรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับคู่กรณีคือนายยงยุทธ แก้วสวนจิก ผู้เป็นสามี หลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียกค่าที่ควรจะได้จากสามีกรณีถูกหวย 30 ล้านโดยขอแบ่งมาเป็นค่าเลี้ยงดูลูกจำนวน 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นขึ้นไปบนชั้นสองที่ห้องศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธี ศูนย์ประนีประนอม คดีความประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปสังเกตการณ์ได้แต่ห้ามบันทึกภาพ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญนายธีระพล โภชนุกูล ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ ฝ่ายผู้ร้อง นายกฤษณะ ธีระตระกูล ทนายความ และนายยงยุทธ แก้วสวนจิก ฝ่ายผู้ถูกร้อง เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ย โดยมีนางสุนีย์ แต้รัตนชัย ผู้พิพากษาศาลสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ จึงแยกให้ทนายความทั้งสองฝ่ายออกมาด้านนอก เพื่อให้สามีภรรยาคู่กรณี พูดคุยตกลงกันเอง
นายธีระพล โภชนุกูล ทนายความของน.ส.เสาวณี กล่าวว่า ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.อุดรธานี รับคำฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 339/2558 มีน.ส.เสาวณี ทองวิเศษ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลยคือนายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ แก้วสวนจิก ฐานความผิดละเมิดรับรองบุตร เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู โดยคำฟ้องระบุว่า โจทก์และจำเลยอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ไม่เคยคบหาชายอื่นในทางชู้สาว จนเมื่อเดือนส.ค.2557 โจทก์ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2558 ชื่อด.ช.ชลธี แก้วสวนจิก จำเลยส่งเสียค่าดูแลบุตรเดือนละ 2 พันบาท บางเดือนโจทก์ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว จนบุตรอายุ 8 เดือน ต่อมาจำเลยถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัลจำนวน 30 ล้านบาท โจทก์มีความประสงค์ให้จำเลยรับด.ช.ชลธีเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูด.ช.ชลธี เป็นเงิน 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีของเงินดังกล่าวจนกว่าจะชำระแล้วเสร็จ วันนี้ผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคู่กรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาทั้งคู่ได้ตกลงกันโดยที่ฝ่ายชายยินยอมที่จะรับเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 7,000 บาท และส่งเสียค่าเล่าเรียนไปจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และให้เงินฝ่ายภรรยาเพิ่มเติมอีกจากเดิมที่จ่ายไปแล้วจำนวน 5 แสนบาท ให้แม่ภรรยาไปแล้วจำนวน 5 แสนบาท ให้ลูกชาย 2 แสนบาท รวมจ่ายไปก่อนหน้านี้จำนวน 1.2 ล้านบาท ขอจ่ายเพิ่มให้อีกจำนวน 9 แสนบาท และให้ซื้อรถกระบะ 4 ประตู ราคาร่วม 1 ล้านบาทอีก 1 คัน โดยในตอนแรกยังตกลงกันไม่ได้ จนในที่สุดทางฝ่ายของน.ส.เสาวณี ยินยอมตามข้อตกลงที่ฝ่ายสามีเสนอให้ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องยืดเยื้อออกไปอีก
ที่มา ;http://www.siamupdate.com/news-179052
0 comments:
Post a Comment