มีอยู่วันหนึ่งคุณหมอเรียกคุณหญิงถูมาพบ เพราะลูกสาวเธอใกล้คลอด เมื่อเธอพาลูกเขยมาด้วย ลูกเขยดูเรียบร้อยและขี้อาย เขาบอกคุณหมอว่าเขาเป็นปกติ คุณหมอบอกว่า "โชคดีมีลูกเขยที่ดี" คุณหญิงถูตอบว่า "พอได้ค่ะ เขายังเป็นนักศึกษา"
แท้จริงแล้วลูกเขยคนนี้เป็นเด็กกำพร้า หลังจากที่สอบติดมหาวิทยาลัย คุณหญิงถูรู้จักเขาตอนที่มาฝึกงานที่บริษัท เธอรู้สึกว่าเด็กคนนี้นิสัยดี จึงบอกจะช่วยหางานให้หลังเรียนจบ ยังรับรองว่าขึ้นเป็นผู้จัดการได้แน่ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งแม้ นั่นคือเขาต้องแต่งงานกับลูกสาวของเธอ
"เริ่มแรกฉันก็กลัวเขาจะรังแกลูกสาวฉัน แต่พอเห็นว่าเขาทั้งสองเข้ากันได้ดี พวกเราจึงย้ายออกมา แต่คิดไม่ถึงเลยฉันจะได้อุ้มหลานเร็วขนาดนี้"คุณหญิงถูบอก
เด็กคลอดออกมาปกติดี ลูกเขยดีใจมากและอุ้มลูกตลอดเวลา และยังหอมแก้มภรรยาของเขา เธอยิ้มอย่างมีความสุข คุณหมอเห็นเข้าจึงถามว่า "คุณเป็นห่วงบ้างหรือเปล่า ว่าเด็กคนนี้จะอาจติดพันธุกรรมจากแม่" ลูกเขยยิ้มแล้วตอบว่า "ผมก็ไม่กลัวลูกผมผิดปกติ ภรรยาของผมทุกวันนี้ก็สบายดี ดูแลตัวเองพอได้ เมื่อก่อนผมยากจนไม่มีครอบครัว ตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้ว ถ้าเธอดูแลลูกเป็นก็จะดี"
เขายังบอกว่า "ถึงสมองเธอไม่ปกติ แต่ไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันเลย เธอทำอาหารและทำความสะอาดบ้านได้ ยังชอบถักไหมพรม ผมไปซื้ออุปกรณ์ถักมาให้เธอ เธอซื้อของในอินเตอร์เน็ตเป็น และฟังที่ผมพูดก็รู้เรื่อง" คุณหมอแปลกใจถามว่า "แล้วทำไมไม่ให้เธอออกไปทำงาน?" เขาถอนหายใจตอบว่า "มีคนเคยด่าเธอ เพราะผมไม่สามารถไปควบคุมคนอื่นได้ ผมไม่อยากให้ครอบครัวของผมโดนรังแก"
คุณหมอได้ยินคนอื่นนินทากันว่า พอลูกเขยได้เลื่อนตำแหน่งแล้วจะทิ้งลูกสาวเธอแน่ๆ ตอนนี้คุณหมอเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่ให้ภรรยาออกมาทำงาน เพราะคนในสังคมหลายคนจิตใจไม่ดี ยังมีบางคนหาว่าลูกเขยทำแบบนี้เพราะเห็นแก่เงิน ไม่ได้รักภรรยาเขา แค่ทำเพราะความสงสาร
พอคุณหมอได้เจอคุณหญิงถูอีกครั้ง ครั้งเธอพาหลานชายมา แถมยังอุ้มหลานสาวมาฉีดยาด้วย เธอบอกว่าตอนนี้ลูกสาวเธอเปิดร้านขายอุปกรณ์ถักไหมพรม ครอบครัวลูกสาวเธอมีความสุขดี
ความสุขนั้นไม่ได้มาจากเงินทอง เราไม่สามารถไปบังคับให้คนอื่นไม่ว่าร้ายนินทาเราได้ แต่สามารถทำให้ชีวิตเราเองให้มีความสุข ความร่ำรวยที่แท้จริงคือการมีชีวิตที่มีความสุข ไม่ใช่มาจากเงินตรา
0 comments:
Post a Comment