ชายหนุ่มคนหนึ่งติดคุกด้วยโทษฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำให้แม่ที่ลำบากเลี้ยงดูมาต้องเสียใจและไม่เคยมาเยี่ยมเขาที่คุกเลย แต่ทุกๆหน้าหนาวตลอด 6 ปี ที่อยู่ในคุกนั้น เขาได้รับเสื้อกันหนาวไหมพรมที่มีลายปักดอกบ๊วยสีแดงอยู่ที่มุมเสื้อมาให้ เขาทุกปี แนบกระดาษที่เขียนโน้ตไว้ว่า "เป็นคนดีนะ แม่ยังรอให้เธอกลับมาเลี้ยงตอนแก่อยู่" ทำเอาผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาน้ำตาอาบทั่วสองแก้ม
เพราะว่าเขาประพฤติดีตลอดระยะเวลาที่อยู่ในคุกทำให้พ้นโทษเร็วขึ้น เมื่อเขากลับถึงบ้านไม่เจอแม่ก็รีบไปถามเพื่อนบ้านว่า "แม่ผมล่ะ?" เพื่อนบ้านบอกว่าแม่ของเขาได้ตายไปแล้ว! แม่ไปทำงานที่โรงงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้เขา เสื้อไหมพรมที่เขาได้รับตอนอยู่ในคุกนั้นเป็นของที่แม่เขาฝากให้เพื่อนบ้าน ช่วยส่งไปให้ อุบัติเหตุโรงงานระเบิดเมื่อปีที่แล้วทำให้คนงานทั้งโรงงานเสียชีวิตรวมไป ถึงแม่ของเขาด้วย เขาไปร้องไห้ที่หน้าหลุมฝังศพของแม่ วันต่อมาเขาขายบ้านเก่าของเขาทิ้ง หอบเสื้อทั้ง 6 ตัวที่แม่ส่งให้ไปหางานทำที่เมืองอื่น
หลังจากนั้น 4 ปี เขาได้แต่งงานและเปิดร้านอาหารร้านหนึ่งในเมือง ทุกวันตอนเช้ามืดเขาจะต้องออกไปซื้อวัตถุดิบเข้าร้าน 2 สามีภรรยาช่วยกันจนฟ้าสว่าง มีอยู่วันหนึ่งมีคนแก่หลังค่อมที่เดินไม่ค่อยถนัดเข็นรถสามล้อมาที่หน้าร้าน เพื่อนำเนื้อและผักที่สดและราคาถูกมาให้พวกเขา หญิงแก่คนนั้นเป็นใบ้ หน้าตาดูมอมแมมแถมยังมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าที่ดูน่ากลัว เขารีบตอบตกลงซื้อของก่อนที่ภรรยาจะปฏิเสธเพราะว่าหญิงแก่คนนี้ทำให้เขานึก ถึงแม่ของเขา
อีกสองปีผ่านไป ร้านอาหารของเขาได้กลายเป็นภัตตาคารชื่อดัง เขาร่ำรวยจนซื้อบ้านหลังใหม่ได้ คนที่ขายผักและส่งวัตถุดิบให้ร้านก็ยังเป็นหญิงแก่คนเดิม มีอยู่วันหนึ่งที่หญิงแก่ไม่มาเขาจึงต้องออกไปซื้อของเองที่ตลาด แต่ว่าวัตถุดิบที่ได้มานั้นก็คุณภาพไม่ดีเท่าที่หญิงแก่เอามาส่งให้ พอถึงเทศกาลปีใหม่เขาจึงอยากเอาขนมไปให้หญิงชราเป็นของขวัญจึงลองถามชาวบ้าน แถวนั้นว่าหญิงชราพักอยู่ที่ไหน จนในที่สุดเขาก็หาเจอว่าบ้านของหญิงชรานั้นอยู่ห่างจากภัตตาคารของเขาไปสอง ซอย
เมื่อ เขาเข้าไปที่บ้านของหญิงชราก็เห็นร่างกายที่ซูบผอมของเธอนอนอยู่บนเตียง ถัดไปไม่ไกลมีภาพภาพหนึ่งแขวนอยู่บนผนัง นั่นเป็นรูปของเขากับแม่! ที่มุมกำแพงมีผ้าเก่าๆม้วนอยู่ ผ้าที่ปักลายดอกเหมย หญิงชราส่งเสียงแผ่วๆมาว่า "ลูกแม่~" หญิงชราที่คอยส่งวัตถุดิบให้ร้านอาหารของเขามาสองปีเต็มคือแม่ของเขาเอง? เสียงนั้นมันช่างคุ้นเคย เขารีบวิ่งเข้าไปกอดแม่และร้องไห้ฟูมฟาย
แม่ของเขาเช็ดน้ำตาแล้วพูดกับเขาว่า
"แม่ พยายามที่สุดแล้วที่จะเอาตัวรอดมาจากไฟไหม้ในวันนั้น แต่หน้าตาแม่ดูอัปลักษณ์ซ้ำขาก็พิการ แม่ไม่อยากเป็นภาระของลูก แม่เลยตัดสินใจแบบนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระของลูก"
เธอเริ่มส่งผักส่ง เนื้อให้ร้านอาหารของลูกชาย แต่ว่าตอนนี้แม้จะก้าวลงจากเตียงเธอก็ไม่มีแรงเลยไปส่งผักให้อีกไม่ได้ ลูกชายอุ้มแม่ขึ้นและไม่ลืมที่จะหยิบม้วนผ้านั้นแล้วรีบพาแม่ออกจากบ้านหลัง นั้นไปทั้งน้ำตา เขาพาแม่ไปอาศัยอยู่ที่บ้านเขาได้ 3 วัน ทั้งสองคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง และในที่สุดลูกชายก็บอกแม่ว่าที่เขาฟันคนในวันนั้นก็เพราะว่ามันดูถูกแม่ จะให้คนทั้งโลกมาพูดจาไม่ดีกับเขาหรือจะด่าว่ายังไงเขาก็ทนได้ แต่เขาทนไม่ได้ที่คนอื่นมาพูดจาดูถูกแม่
หลังจากนั้น 3 วัน แม่ก็จากโลกนี้ไป คุณหมอบอกว่า "คุณแม่เป็นมะเร็งในกระดูกมาสิบกว่าปีแล้ว อยู่มาได้จนถึงเท่านี้ก็นับเป็นปาฏิหาริย์ อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ" เขาเปิดห่อผ้าที่เอามาจากบ้านแม่ดู ข้างในมีเสื้อไหมพรมตัวใหม่ที่แม่เตรียมไว้ให้เขา ภรรยาและลูก เสื้อทุกตัวมีลายปักดอกเหมยสีแดง ด้านล่างมีใบรับรองแพทย์เขียนว่า "มะเร็งกระดูก" ที่ออกเมื่อปีที่ 2 ที่เขาอยู่ในคุก ในใจของเขารู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลึก มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถรักษาได้
ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่นัก ความกตัญญูต่อพ่อแม่ต้องรีบแสดงออกอย่ามัวแต่รอเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้!
ที่มา ;http://www.siamupdate.com/news-179051
0 comments:
Post a Comment